Man To Man สุภาพบุรุษสายลับ พากย์ไทย ตอนที่ 1-16 (จบ) [เกาหลี]

ละคร "สุภาพบุรุษสายลับ (Man to Man)" นำเสนอเรื่องราวของสุดยอดสายลับและพลซุ่มยิง (สไนเปอร์) หน้านิ่ง ที่จำต้องปลอมตัวเป็นบอดี้การ์ดของอดีตสตั๊นท์แมนที่กลายเป็นดาราหนังแอคชั่นและดาวร้ายระดับอินเตอร์ (ซึ่งเอาแต่ใจและหลงตัวเองสุดๆ) หมายปฏิบัติภารกิจลับสุดยอดให้หน่วยข่าวกรองแห่งชาติ

 

ละครเปิดฉากด้วยเหตุก่อการร้าย... กองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติวางกำลังล้อมรถโรงเรียนที่ถูกมือระเบิดพลีชีพคนหนึ่งยึดโดยที่ภายในมีเด็กนักเรียนเต็มคันรถ เพื่อความปลอดภัยของเด็กๆ หัวหน้าทีมจึงสั่งห้ามยิงโดยพลการ แต่ "คิม ซอลอู" ซึ่งเป็นหนึ่งในพลซุ่มยิงที่ประจำอยู่บนดาดฟ้าตึก เห็นภาพจากกล้องสไนเปอร์ว่าคนร้ายซึ่งสวมเสื้อติดระเบิดได้ลากเด็กผู้หญิงคนหนึ่งออกมาจากที่นั่งแต่เด็กพยายามดิ้นรนต่อสู้ทำให้เกิดการยื้อยุด เมื่อเห็นว่าคนร้ายซึ่งกำลังหงุดหงิดและคลุ้มคลั่งทั้งยังถือปุ่มกดระเบิดเอาไว้ในมือ (แต่หัวหน้าทีมซึ่งไม่เห็นเหตุการณ์ภายในรถยังคงย้ำให้สแตนด์บาย)  ซอลอูจึงถอดหูฟังออกแล้วคว้าปืนวิ่งตรงไปยังจุดที่ใกล้รถโรงเรียนที่สุด ก่อนกระโดดลงมาทางด้านล่างแล้วเล็งปืนไปที่หน้าผากของคนร้าย จากนั้นก็ลั่นไกสังหารก่อนที่คนร้ายจะกดปุ่มระเบิดแบบฉิวเฉียด แม้จะถูกจับฐานขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา แต่ซอลอูไม่สะทกสะท้านและหันไปขยิบตาให้เด็กหญิงซึ่งเป็นหนึ่งในหลายชีวิตที่เขาช่วยเอาไว้

 

 

ในเวลาต่อมาซอลอูได้เข้าสู่ขบวนการซักถามของสำนักข่าวกรองแห่งชาติเกาหลีใต้ เมื่อถูกถามชื่อเขาตอบว่าตนชื่อ  "คิม ซอลอู" ครั้นพอถูกถามอายุเขากลับตอบหน้าตาเฉยว่าตนเกิดปี ค.ศ. 1609 อายุ 409 ปี แถมเครื่องจับเท็จยังระบุว่าเขาพูดความจริงอีกต่างหาก เจ้าหน้าที่นึกสนุกจึงถามซอลอูว่ามีแฟนไหม  ซอลอูยิ้มแล้วตอบว่า "ผมรัก...คุณ" ซึ่งเครื่องจับเท็จยังคงระบุว่าเขาพูดความจริงอีกเช่นกัน "ลี ดงฮยอน" (อดีตสายลับหน่วยข่าวกรอง ปัจจุบันผันตัวมาเป็นอัยการแต่ยังคงช่วยงานหน่วยข่าวกรองอย่างลับๆ) กับ "จาง แทโฮ" (หัวหน้าหน่วยข่าวกรอง) ซึ่งยืนสังเกตการณ์อยู่ทางด้านนอกเห็นดังนั้นก็รู้สึกทึ่ง ดงฮยอนเชื่อมั่นในสัญชาตญาณว่าตนเลือกคนไม่ผิด  หัวหน้าจางเตือนว่าแม้ซอลอูจะเก่งแต่ก็เป็นบุคคลอันตราย ดงฮยอนเลยชี้ว่าเพราะอย่างนี้ซอลอูถึงมีประโยชน์ต่องานของพวกตน

 

 

หลังเสร็จสิ้นขบวนการซักถาม ดงฮยอนอธิบายให้ซอลอูฟังว่าสายลับในเกาหลีใต้แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1. สายขาว คือ สายลับที่ทำภารกิจอย่างเป็นทางการ เปิดเผย และใช้ชื่อจริง 2. สายดำ คือ สายลับที่ทำงานโดยไม่เปิดเผยภารกิจและตัวตน 3. สายลับผี คือ สายลับที่ปฏิบัติภารกิจแบบลับสุดยอด ไร้ตัวตน (ต้องปลอมตัว) และต้องทำงานอย่างสุขุมรอบคอบ ดงฮยอนอยากให้ซอลอูเป็นสายลับผีที่ทำงานในระดับสากล ซอลอูตอบตกลงทันทีทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาทำเหมือนไม่สนใจฟัง ดงฮยอนจึงขอให้คำแนะนำเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายว่า "อย่าไว้ใจใคร" ซอลอูกล่าวว่าขนาดตัวเองตนยังไม่ไว้ใจ ดงฮยอนจึงยกนิ้วโป้งให้อย่างชื่นชม

 

 

หลังจากนั้นซอลอูก็ถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจในหลายประเทศแถบยุโรปโดยปลอมแปลงชื่อและตัวตน นับตั้งแต่การเป็นบาทหลวงที่โบสถ์แห่งหนึ่งในประเทศอิตาลี โดยใช้ชื่อ "จูเลี่ยน เฟอร์นานเดส มาร์ติเนซ" เป็นชาวบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา หลังจากนั้นจึงถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจที่เยอรมนีในฐานะชาวสโลเวเนีย หลังได้รับข้อมูลของเป้าหมายที่มีชื่อว่า "การ์โบ ลีเบิร์ต" วัย 65 ปี เป็นชาวเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ตำแหน่งหัวหน้ามาเฟียและประธานบริษัท จีบี คนสตรัคชั่น มีลูกสาววัย 21 ปี ชื่อแอนนา มาเรีย (แอนนา ลีเบิร์ต) กำลังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยในบูดาเปสต์  ซอลอูจึงเดินทางจากฝรั่งเศสไปฮังการีโดยใช้ชื่อในพาสปอร์ตว่า "เจมี่ ลูคัส" (สัญชาติอเมริกัน)

 

 

เพื่อตีสนิทกับลูกสาวเป้าหมาย ซอลอูจึงปลอมตัวเป็นศัลยแพทย์ขององค์กรสาธารณกุศล (แพทย์อาสา) และได้เป็นผู้บรรยายในคลาสของแอนนา เขาถามเธอเป็นภาษาอังกฤษว่าหากเธอทำงานด้านการตลาดให้กับองค์กรบรรเทาทุกข์เธอจะเลือกใช้ภาพใด ระหว่างภาพเด็กบาดเจ็บที่สะท้อนความจริงอันแสนโหดร้ายและไร้ซึ่งความหวัง กับภาพที่เปี่ยมไปด้วยความฝันและความหวัง แอนนาเลือกใช้ภาพอันน่าเศร้าของเด็กเพื่อให้คนสงสารและเห็นใจจะได้ช่วยกันบริจาคเงินเยอะๆ  ซอลอูจึงเดินไปหาแอนนาที่โต๊ะพลางถามว่าหากเธอเลือกใช้ภาพแรงๆ หวังดูดเงินบริจาค แล้วครั้งต่อไปเธอไม่ยิ่งต้องใช้ภาพที่แรงขึ้นเรื่อยๆ หรือ (เพราะคนเห็นภาพแรกจนเริ่มคุ้นชินจึงรู้สึกสะเทือนใจน้อยลง) แอนนาตอบว่าถ้าจำเป็นก็ต้องทำเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการตลาด

ซอลอูถามต่อว่า เธอคิดว่าสิ่งที่ตนเองเลือกถูกต้องตามหลักจริยธรรมแล้วหรือ ถ้าหากเด็กคนนั้นเป็นคนในครอบครัวของเธอๆ จะตัดสินใจเช่นนั้นไหม ซอลอูเรียกแอนนาว่า "แอนนา ลีเบิร์ต" ทำให้แอนนารู้สึกประหลาดใจเพราะนามสกุลเธอถือเป็นความลับและน้อยคนนักที่จะรู้ความจริงในข้อนี้  (ทุกคนรู้จักเธอในชื่อ "แอนนา มาเรีย") เธอกำลังจะอ้าปากถามแต่ซอลอูชิงหันหลังกลับและบรรยายให้นักศึกษาฟังว่าการช่วยเหลือใครสักคนเป็นเรื่องซับซ้อนและละเอียดอ่อนกว่าที่ทุกคนคิด ซ้ำยังมีเรื่องยุ่งยากให้ตัดสินใจลำบากเสมอ แอนนารู้สึกคาใจจึงดักรอซอลอูเพื่อถามว่าพวกตนเคยพบและรู้จักกันหรือไม่ เมื่อซอลอูปฏิเสธแอนนาจึงสงสัยว่าเขารู้นามสกุลจริงของเธอได้อย่างไร เพราะแม้แต่ศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยยังไม่มีใครรู้

กำลังโหลด...